- Joined
- Jul 25, 2016
- Messages
- 2,245
รีวิว MSI GP 66 LEOPARD พร้อม i7 11800H + RTX 3070 หน้าจอ 240Hz !

MSI ยังคงเดินหน้าลุยตลาดเกมมิ่ง และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในปีนี้ทั้งเรื่องของโลโก้ หน้าตาระบบ UI เรียกได้ว่ายกเครื่องใหม่ สวยหรูหรา
พรีเมี่ยมมากกว่าเดิม อีกทั้งในเรื่องของสเปก และ ราคา ในหลายๆรุ่นกลับทำได้คุ้มค่า ถูกลง สเปกแน่นขึ้นสวนกระแสเลยทีเดียวต้องบอกว่าทำได้น่าสนใจ
ส่วนทางด้าน MSI GP66 LEOPARD ในการใช้งาน intel Gen 11th ตัวนี้บอกเลยว่าสเปกลงตัวขึ้น พร้อมกับการ์ดจอ RTX3070 เช่นเดิม แต่การพัฒนามาใช้งาน Gen11th
ส่งผลในเรื่องของคะแนน การใช้งานเยอะกว่าที่คิดบอกเลยว่าลงตัวมากขึ้นครับ

MSI GP66 LEOPARD 11UG 053TH เองนั้นจะมาพร้อมกับการใช้งาน INTEL CORE I7-11800H (2.30 GHz-4.60 GHz) และ ทำงานร่วมกันกับ
GRAPHICS NVIDIA® GeForce RTX™ 3070 Laptop GPU 8GB GDDR6 Up to 1720MHz Boost Clock, 140W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost.
ที่รองรับการทำงานเล่นเกมระดับสูงได้สบาย รวมถึง หน้าจอ DISPLAY 15.6″ FHD (1920×1080), 240Hz, IPS-Level และ RAM 16GB DDR4-3200 Memory Type 2 Slots
Number of SO-DIMM Slot ที่รองรับสุงสุด 64GB และทางด้านความจุ STORAGE CAPABILITY 1TB 1x M.2 SSD slot (NVMe PCIe Gen3) 1x M.2 SSD slot (NVMe PCIe Gen4)
และยังคงใช้งาน KEYBOARD Per-Key RGB Backlight Keyboard / Steel Series และเชื่อมต่อไร้สาย Gb LAN (Up to 2.5G) Killer ax Wi-Fi 6E + Bluetooth v5.2
แต่น่าเสียดายว่าไม่มี USB-C และ Thunderbolt มาให้ในตัวเครื่องนี้ครับ ส่วนเรื่องระบายความร้อน Cooler Boost 5 จัดเต็ม และระบบเสียง Hi-res ยังคงใส่เข้ามาให้
ส่วนทางด้านราคา นั้นเปิดมาที่ 67,990 บาทไทย ในสีดำ

DESIGN
งานออกแบบนั้นยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าในตัว Gen10 นั้นเองแต่ครั้งนี้ปกติแล้วรุ่นนี้จะไม่ได้มีไฟข้างหน้าอยู่แล้วนะจะไม่เหมือนตระกูล Raider
ทำให้มันไม่ได้หวือหวามากนัก แต่จะเน้นไปที่สเปกการใช้งาน การออกแบบเรียบๆสีดำล้วนแบบนี้ก็เหมาะแก่การพกพาไปทำงานทั่วไปได้
ไม่ดูสายเกมมิ่งมากเกินไปอีกทั้งในเรื่องของน้ำหนักและขนาดนั้นก็ทำได้ดี หนา 23.4มม. และ มีน้ำหนักประมาณ 2.38 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่ายังอยู่ในระดับที่พกพาไปไหนได้
ในระดับตัวเครื่อง 15.6นิ้ว ส่วนความหนาก็กำลังดีแต่จะไม่ได้เน้นบางมากแบบตระกูลเกมมิ่งบางๆพวกนั้นเพราะตัวนี้จะเน้นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน
และระบบระบายความร้อนมากกว่า อีกทั้งยังช่วยในพื้นที่การระบายได้ดีขึ้น


เมื่อเปิดฝาหลังขึ้นมานั้นเราจะเห็นว่างานการจัดวางข้างในเองนั้นทำได้ดีเลยทีเดียว มาพร้อมกับ ฮีทไปป์ขนาดใหญ่ 6 เส้น และพัดลมแยกซ้าย/ขวา
พร้อมกับดูดอากาศ ปล่อยลมได้ทั้ง ซ้าย/ขวา รวมถึงในด้านหลัง 2 ช่องเน้นๆเลยทีเดียว ส่วน RAM นั้นให้มาที่ 16GB ( 8GB x 2 Dual Channel )
และรองรับ SSD M.2 NVMe PCIe ทั้งหมด 2 ช่อง ซึ่งให้มาแล้ว 1 แบบ 1TB และมีแผ่นกราไฟท์ระบายความร้อน ซิลิโคนมาให้ทั้งหมดในการปิด RAM – SSD
เรียกได้ว่ารองรับการระบายความร้อนเน้นๆเลยทีเดียวพร้อมกับแบตขนาดใหญ่ที่ 65Whr

SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้ยังคงมีขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วพร้อมกับ ใช้งานหน้าจอ IPS ความละเอียด FHD หน้าจอแบบด้านพร้อมกับสีที่มีความใกล้เคียงกับ 100% sRGBถือว่าในเรื่องของหน้าจอทำได้ดี และมี Refresh Rate ที่ 240Hz ครับ และการออกแบบใช้งาน จอด้านทำให้มันใช้งานได้ดีไม่เจอแสงสะท้อนหรือใช้งานข้างนอกก็ทำได้ดี
ของสีสันต่างๆนั้นสบายๆจอแบบ IPS FHD นั้นความแม่นยำของตัวสีและมุมมองนั้นทำได้ดีและจากที่ลองมันก็ เล่นเกมได้ดี คือลื่นไหลเนียนตามากๆ และหน้าจอมีความสว่างสู้แสงได้ดี
ถือว่ารองรับการประมวลผลในการทำงานสายแต่งภาพก็รองรับได้ หรือรองรับได้ทั้งเล่นเกมที่มีความลื่นไหลในการใช้งาน เวลาเล่นเกมที่ตอบสนองต่อภาพที่เน้นกราฟิกได้ดี

KEYBOARD
แป้นพิมพ์ในรุ่นนี้มาพร้อมกับการใช้งานขนาดพื้นฐานของพวกหน้าจอ 15.6 นิ้ว คีย์บอร์ด Full Size จากทาง SteelSeries พร้อมไฟ RGB Pre-Keyที่สามารถเปลี่ยนสีได้ทุกปุ่มครับสามารถปรับแต่งได้ค่อนข้างอิสระเลยทีเดียวและการใช้งานคีย์บอร์ดจากทาง SteelSeries นั้นถือว่ายังคงสานต่อจากรุ่นก่อนๆจนมาถึงรุ่นนี้ได้ดี
พัฒนามาอย่างลงตัวทั้งระยะการกด และความเด้งรับอะไรนั้นรองรับการใช้งานเวลาเล่นเกมได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวตัวนี้ และที่ชอบคือมีปุ่มใช้งานหลากหลายเมื่อกด FN
ก็จะเน้นสีแดงส่วนที่รองรับฟังก์ชันนี้ และ F8 สำหรับเปิด TURBO ในการระบายความร้อนสูงสุดเป็นปุ่มที่ทาง MSI ใส่เข้ามาให้ตลอด และ F9 สำหรับการเข้าตั้งค่า Steel Series
นั้นเอง เพื่อปรับเปลี่ยนโปรไฟล์สีของ Steelseries Engine 3 ว่าจะปรับโซนไหน แสงสีแบบไหนบ้างถือว่าจัดเต็มมากๆ

MSI GP66 LEOPARD
” สายเกมมิ่ง ใช้งาน i7 Gen 11th +RTX 3070 ประสิทธิภาพลงตัวมากกว่าเดิม ! “
RTX 3070 แล้วแน่นอนว่าสเปกการใช้งานเล่นเกมต่างนั้นดีขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน รวมถึงยังคงใช้งานบอดี้แบบเดิมทั้งหมด
เส้นสายเรียบๆผสมกับช่องดักลมระบายลมอะไรขนาดใหญ่ ทางด้าน CPU เองนั้นใช้งาน i7 Gen11 โหดมากขึ้น เทคโนโลยีใหม่กว่าเดิม
รวมถึงหน้าจอก็ยังคงมีความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพและความลื่นไหลตัวนี้ให้มาที่ 240Hz รองรับการทำงานได้สบาย รวมถึงการเล่นเกมสามารถขับออกมาได้ไหลลื่นมากๆตัวนึง
อีกทั้งระบบเสียงอะไรก็จัดเต็มเช่นเดิมครับ รองรับ hi-res แต่เรื่องของพอร์ตยังคงไม่มี Thunderbolt , USB-C ใส่เข้ามา แต่ถ้ามองสเปกรวมๆทั้ง RAM 16GB
และ SSD 1TB ก็ต้องบอกเลยว่าพอในการใช้งานพื้นฐานไปถึงสูง
ขอขอบคุณบทความจาก Techhangout